การประมูลในเมืองไทย
สำหรับการประมูลในประเทศไทยนั้นในอดีตได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงหน่วยงานของราชการเท่านั้น โดยใช้รูปแบบการประมูลแบบยื่นซอง แต่หลังจากที่ภาคเอกชนได้นำเอารูปแบบการประมูลเข้ามาใช้ในการซื้อ-ขายสินค้า และได้มีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ข้อดีและจุดเด่นของการซื้อสินค้าผ่านการประมูล ให้กับผู้บริโภคได้รับรู้และเกิดการยอมรับ จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เนื่องจากได้มีการพัฒนารูปแบบการทำงานให้ผู้บริโภคได้รับความยุติธรรม ตัดปัญหาเรื่องหน้าม้าเข้ามาปั่นราคาสินค้า รวมทั้งมีระบบการทำงานที่ไม่โปร่งใสยิ่งขึ้นด้วยการนำเอาการประมูลแบบเปิดเข้ามาใช้ จึงทำให้การประมูลเป็นอีกรูปแบบทางการตลาดที่เข้ามามีบทบาทยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    จะเห็นได้จากภาคธุรกิจหลากหลายประเภทได้หันมาใช้การประมูล เพื่อใช้ในการขายทอดตลาดสินค้าประเภทต่างๆ เช่น รถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสอง อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและที่ดิน คอมพิวเตอร์ หุ้น จิวเวอร์รี่ ฯลฯ และ นอกจากนั้น ในปัจจุบันมีการใช้การประมูลเพื่อสร้างสีสันให้กับกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ อาทิเช่น การจัดประมูลเพื่อสร้างสีสันให้กับงานอีเว้นท์เปิดตัวสินค้า หรือ พีอาร์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างแบรนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายตามที่ทีมการตลาดต้องการทำให้การประมูลจึงเป็นกิจกรรมส่วนนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ทำไมต้องมีการประมูล
ด้วยความจำเป็นที่ภาคธุรกิจต้องมีการพัฒนารูปแบบการตลาดให้มีความหลากหลายและเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วในการขายสินค้า จึงทำให้มีการนำเอาระบบการประมูลเข้ามาใช้ในธุรกิจมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เห็นช่องทางในการเป็นตัวแทนการประมูลซื้อ-ขายสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมและความสนใจจากผู้บริโภค จึงทำให้ปัจจุบันนี้มีธุรกิจประเภทประมูลเกิดขึ้นหลายแห่งด้วยกัน ในจำนวนนี้มีทั้งหน่วยงานราชการที่นำเอารูปแบบการประมูลมาใช้ในการขายทอดตลาด หรือแม้แต่บริษัท ที่ขายสินค้าด้วยการประมูลโดยตรง และบริษัทที่เป็นโบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการประมูลให้กับผู้ประกอบการทั่วไป